บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นำคณะเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๑๘-๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ในโอกาสครบรอบ ๑๘๐ ปี ของมิตรภาพระหว่างสหรัฐอเมริกาและราชอาณาจักรไทย ท่ามกลางการอารักขาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
พระสุธีธรรมานุวัตรหรือเจ้าคุณเทียบ สิริญาโณ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เล่าให้ฟังว่าการมาเยือนประเทศไทยของประธานาธิบดีสหรัฐฯในครั้งนี้นั้น เรียกได้ว่าเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี และมีความเข้าใจในจิตวิญญาณของคนไทย หลังจากเยี่ยมชมวัดโพธิ์แล้วก็ได้เดินทางไปเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และได้ไปหารือร่วมมือร่วมกับรัฐบาลต่อในคืนนั้น หากสังเกตจะเห็นได้ว่าการมาเมืองไทยของผู้นำสหรัฐในครั้งนั้นให้ความสำคัญกับทั้ง 3 สถาบันหลัก คือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
“แม้ว่านายบารัค โอบามา นับถือศาสนาคริสต์ แต่ประเทศไทยมีคนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ก็เลือกที่จะเข้ามาเยี่ยมชมวัดโพธิ์เพื่อเป็นการให้เกียรติประเทศไทย เมื่อเข้าชมวิหารภายในก็ถอดรองเท้าทุกครั้ง” เจ้าคุณสุธีธรรมานุวัตรกล่าว และเล่าต่อว่า ก้าวแรกที่มาถึง ผู้นำสหรัฐยกมือไหว้ทักทายแบบไทยและบอกว่า วัดสะอาดสะอ้านมาก พูดจาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส อาตมาก็กล่าวยินดีต้อนรับประธานาธิบดีที่มาเยี่ยมชมวัดโพธิ์ ถือเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่มาเยี่ยมชมวัดนี้
“ระหว่างที่เข้าสักการะพระพุทธไสยาสนอาตมาได้บอกกับประธานาธิบดีว่า พระพุทธรูปนี้ชาวไทยเชื่อกันว่าหากขอพรอะไรไปจะสมดังหวัง และจะประสบความสำเร็จในชีวิต และหากสหรัฐอเมริกาสามารถมีประธานาธิบดีคนเดียวกันได้สามสมัยติดต่อกัน ซึ่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐหัวเราะ พร้อมบอกว่าคงไม่ไหวแล้ว ขอกลับไปดูแลครอบครัวดีกว่า” จากนั้น นายโอบามายังชี้ไปที่นางฮิลลารี คลินตันว่าจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาต่อจากท่าน ซึ่งหากนางฮิลลารีได้เป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐจริง อาตมาเชื่อว่าจะต้องเดินทางกลับที่วัดโพธิ์อีกอย่างแน่นอน
การเยือนมาของโอบามาครั้งนี้เราได้เห็นถึง อารมณ์ขัน ความสนใจ และความเคารพในพระศาสนา ก่อนที่ท่านจะกลับได้ฝากของขวัญจากทำเนียบขาว และได้ลงนามเยี่ยมชมวัดและเซ็นชื่อไว้เป็นที่ระลึกด้วย ซึ่งทางวัดโพธิ์ได้มอบหนังสือเกี่ยวกับวัดโพธิ์เป็นภาษาอังกฤษแก่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาด้วย